วันนี้มาเรียน google apps กับชาวสำนักคอมฯ
โดยคนสอนคือคุณเก๋ ครับ
้
http://bit.ly/swu8apr
เว็บนี้ใช้สำหรับสอนครับ
สำหรับเว็บนี้เป็นการสร้าง site ของเราเอง
https://sites.google.com/site/skywingtour/
okireview
วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2556
วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
"หนมเส้นลำ ยำนัว"
สวัสดีครับ เหตุการณ์น้ำท่วมประเทศไทย ครั้งนี้ส่งผลให้พี่น้องคนไทย ประสบกับความทุกข์ยาก ความลำบากต่างกรรมกันไป คนที่บ้านน้ำท่วมก็ลำบากมาก คนที่บ้านน้ำไม่ท่วมก็ลำบากเพราะประสบกับปัญหาข้าวยากหมากแพง สินค้าอุปโภค บริโภค ก็แพงขึ้นมากมาย ซึ่งรวมถึงตัวผู้เขียนก็ประสบกับชะตากรรมไม่ต่างจากผู้อ่านเลย ผู้เขียนขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน "สู้" อดทน และจดจำเหตุการณ์ครั้งนี้ เพื่อจะได้เป็นสติเตือนใจได้ว่า "ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา" ครับ สำหรับแนวทางการแ้ก้ไขปัญหาต่อไปก็คงจะเกิดจากรัฐบาลเป็นหลักที่จะต้องดำเนินการ และคงจะมีภาคเอกชน ภาคประชาเข้าร่วมด้วย "สู้" ต่อไปนะครับพี่น้องชาวไทย
สำหรับวันนี้ผมขอแนะนำ ร้าน "หนมเส้นลำ ยำนัว" ครับ เป็นร้านขายขนมจีน ในหอพักนิสิต มศว องครักษ์ ครับ สำหรับร้าน "หนมเส้นลำ ยำนัว" มี น้ำเงี้ยว (สูตรลำปาง) น้ำยากะทิ น้ำยาป่า น้ำยาปักษ์ใต้ เขียวหวาน รสชาดอร่อยถูกปาก นอกจากนี้ยังมี "ข้าวปุ้น น้ำแจ่ว" ยำแซ่บหลากหลาย เช่น ยำรวมมิตร ยำวุ้นเส้น ยำเซี้ยงไฮ้ ยำมาม่า ยำหนมเส้น และ หมูสะดุ้ง" มีขายที่หอพักนิสิต มศว องครักษ์ ครับ
สำหรับวันนี้ผมขอแนะนำ ร้าน "หนมเส้นลำ ยำนัว" ครับ เป็นร้านขายขนมจีน ในหอพักนิสิต มศว องครักษ์ ครับ สำหรับร้าน "หนมเส้นลำ ยำนัว" มี น้ำเงี้ยว (สูตรลำปาง) น้ำยากะทิ น้ำยาป่า น้ำยาปักษ์ใต้ เขียวหวาน รสชาดอร่อยถูกปาก นอกจากนี้ยังมี "ข้าวปุ้น น้ำแจ่ว" ยำแซ่บหลากหลาย เช่น ยำรวมมิตร ยำวุ้นเส้น ยำเซี้ยงไฮ้ ยำมาม่า ยำหนมเส้น และ หมูสะดุ้ง" มีขายที่หอพักนิสิต มศว องครักษ์ ครับ
วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554
กษัตริย์ซุกจง แห่งราชวงศ์โชซอน (ซีรีย์ ทงอี (ดงอี/)/)
พระเจ้าซุกจง (เกาหลี: 숙종, ฮันจา: 肅宗, MC: Sukjong, MR: Sukchong ค.ศ. 1661 - ค.ศ. 1720) เป็นกษัตริย์องค์ที่ 19 แห่งราชวงศ์โชซอน (ค.ศ. 1674 - ค.ศ. 1720)
พระเจ้าซุกจงประสูติเมื่อ ค.ศ. 1661 เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าฮยอนจง กับพระมเหสีมยองซอง ได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์ชายรัชทายาทเมื่อ ค.ศ. 1667 ต่อมาเมื่อ ค.ศ. 1674 พระนางอินซอน พระมเหสีของพระเจ้าฮโยจง สิ้นพระชนม์ จึงเกิดข้อถกเถียงกันเรื่องการใส่พระภูษาไว้ทุกข์ของพระนางจางรยอล พระมเหสีของพระเจ้าอินโจ ขึ้นอีกครั้ง เรียกว่า ความขัดแย้งเรื่องพิธีปีคาบิน (갑인예송, 甲寅禮訟) พระเจ้าฮยอนจงทรงเลือกที่จะทำตามข้อเสนอของขุนนางฝ่ายใต้ นำโดยฮอมก (허목, 許穆) ซึ่งเสนอให้นางจางรยอลไว้ทุกข์แบบแทกง (대공, 大功 9 เดือน พระภูษาหยาบ) ทำให้ฝ่ายใต้ขึ้นมามีอำนาจแทนฝ่ายตะวันตก ซึ่งมีอำนาจอยู่ก่อนหน้า[1]
ในปีเดียวกันนั้น พระเจ้าฮยอนจงสวรรคต พระเจ้าซุกจงจึงทรงขึ้นครองราชย์ในช่วงเวลาที่ฝ่ายใต้มีอำนาจ รัชกาลของพระเจ้าซุกจงเป็นสมัยที่ความขัดแย้งระหว่างฝ่ายต่างๆของขุนนางดุ เดือดที่สุด เรียกได้ว่าไม่มีเลยสักวันเดียวในรัชสมัยของพระองค์ที่จะปราศจากการทุ่ม เถียงระหว่างฝ่ายใต้และฝ่ายตะวันตก ขณะที่ฝ่ายใต้มีอำนาจ ฝ่ายตะวันตกก็ถูกกีดกันออกจากราชการกันเป็นส่วนใหญ่ แต่แล้วเมื่อค.ศ. 1680 ปรากฏมีขุนนางฝ่ายใต้คิดก่อการกบฎยกให้องค์ชายพงซอน (복선군, 福善君) ขึ้นเป็นกษัตริย์แทนพระเจ้าซุกจง ทำให้ฝ่ายใต้ถูกกวาดล้างหลังจากอยู่ในอำนาจได้เพียงเจ็ดปีและฝ่ายตะวันตกก็ เข้ามามีอำนาจแทน เมื่อปีเดียวกันนั้น พระมเหสีของพระเจ้าซุกจงสิ้นพระชนม์ ฝ่ายตะวันตกจึงส่งบุตรสาวจากตระกูลมินแห่งยอฮึงเข้าไปเป็นพระมเหสีองค์ใหม่ ภายหลังได้รับพระนามพระมเหสีอินฮยอน (인현왕후, 仁顯王后) ในค.ศ. 1683 ซงชียอลเกิดความขัดแย้งกับลูกศิษย์ของตนเอง คือ ยุนจึง (윤증, 尹拯) ทำให้ฝ่ายตะวันตกแตกออกเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มนักปราชญ์อาวุโส เรียกว่า โนนน (노론, 老論) ของซงชียอล และกลุ่มนักปราชญ์อายุน้อย เรียกว่า โซนน (소론, 少論) ของยุนจึง
แต่ต่อมาพระเจ้าซุกจงกลับไปโปรดปรานจางซังกุง ซึ่งมาจากตระกูลต่ำเดิมเป็นนางรับใช้ของพระนางจางรยอล และเป็นตัวแทนของขุนนางฝ่ายใต้ ภายหลังได้รับการแต่งตั้งขึ้นป็นพระสนมจาง ในค.ศ. 1688 ก็มีพระโอรสให้กับพระเจ้าซุกจง ซึ่งพระเจ้าซุกจงหมายจะแต่งตั้งให้เป็นองค์ชายรัชทายาท (ภายหลังเป็น พระเจ้าคยองจง) สร้างความขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่างฝ่ายใต้และฝ่ายตะวันตก ฝ่ายตะวันตกพยายามจะคัดค้านขณะที่ฝ่ายใต้ก็สนับสนุนให้แต่งตั้งองค์ชาย รัชทายาท พระเจ้าซุกจงทรงแต่งตั้งพระสนมจางเป็นพระสนมฮีบิน (희빈, 禧嬪) ในค.ศ. 1689 ซึ่งเป็นตำแหน่งพระสนมสูงสุด ซงชียอลได้ทูลคัดค้านขอให้พระเจ้าซุกจงทรงล้มเลิกการแต่งตั้งองค์ชาย รัชทายาทลงและให้เป็นองค์ชายธรรมดา ขุนนางฝ่ายใต้จึงยุยงให้พระเจ้าซุกจงทรงประหารชีวิตซงชียอล เนรเทศกำจัดขุนนางฝ่ายตะวันตกออกไปจากราชสำนัก รวมทั้งปลดพระมเหสีอินฮยอนขับไปนอกวัง และตั้งพระสนมฮีบินขึ้นเป็นพระมเหสีแทน เรียกว่า การเปลี่ยนขั้วทางการเมืองปีคีซา (기사환국, 己巳換局) เหตุการณ์นี้ทำให้ฝ่ายใต้กลับเข้ามามีอำนาจอย่างเต็มทีและฝ่ายตะวันตกถูก กำจัดออกไป องค์ชายรัชทายาทได้รับการแต่งตั้งต่อมาในค.ศ. 1690
แต่ต่อมาพระเจ้าซุกจงกลับทรงรู้สึกผิด ในค.ศ. 1694 ขุนนางฝ่ายตะวันตกถวายฎีกาขอให้พระเจ้าซุกจงทรงดูแลอดีตพระมเหสีอิฮยอนให้ดี ขึ้น พระเจ้าซุกจงจึงให้อดีตพระมเหสีอินฮยอนกลับเข้ามาอยู่ในวังชางด็อกแล้วก็ทรง เปลี่ยนพระทัยคืนตำแหน่งให้กับพระมเหสีอินฮยอน และให้พระมเหสีจางกลับไปเป็นพระสนมฮีบินตามเดิมและไปอยู่ที่พระราชวังชา งคยอง เรียกว่า การเปลี่ยนขั้วทางการเมืองปีคัปซุล (갑술환국, 甲戌換局) ขุนนางฝ่ายใต้ถูกกวาดล้างอีกครั้งต่างถูกเนรเทศไปตามที่ต่างๆ โดยที่ฝ่ายตะวันตกกลับขึ้นมามีอำนาจแทน แต่แล้วเมื่อค.ศ. 1701 พระมเหสีอินฮยอนก็สิ้นพระชนม์ และก็พบว่าพระสนมฮีบินทรงใช้นางร่างทรงเพื่อทำการสาปแช่งพระมเหสี พระสนมฮีบินจึงถูกสำเร็จโทษไป
นับแต่นั้นมาความขัดแย้งระหว่างฝ่ายใต้และฝ่ายตะวันตกจึงจบลง ปลายรัชสมัยของพระเจ้าซุกจงนั้นค่อนข้างสงบสุข แต่พร้อมที่จะปะทุในเวลาอันใกล้เพราะขุนนางฝ่ายโนนนและโซนนกำลังจะเผชิญหน้า กัน ด้วยเรื่องการสืบราชสมบัติ ฝ่ายโซนนสนับสนุนองค์ชายรัชทายาท ขณะที่ฝ่ายโนนนยังคงยืนกรานความคิดเห็นของฝ่ายตะวันตกในทีแรกว่า ไม่ควรตั้งพระโอรสที่เกิดแต่พระสนมฮีบินเป็นรัชทายาท จึงหันไปสนับสนุนองค์ชายยอนอิง (연잉군, 延礽君 ซึ่งเป็นพระโอรสกับพระสนมซุกบิน ตระกูลแช ภายหลังเป็น พระเจ้ายองโจ) ซึ่งพระสนมซุกบินเป็นที่โปรดปรานทั้งพระเจ้าซุกจงและพระมเหสีอินฮยอน ทำให้พระสนมซุกบินเป็นที่รักใคร่ของคนทั้งวัง
เมื่อค.ศ. 1718 พระเจ้าซุกจงทรงตั้งองค์ชายรัชทายาทเป็นผู้สำเร็จราชการแทน พระเจ้าซุกจงสวรรคตเมื่อค.ศ. 1720
พระเจ้าซุกจงประสูติเมื่อ ค.ศ. 1661 เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าฮยอนจง กับพระมเหสีมยองซอง ได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์ชายรัชทายาทเมื่อ ค.ศ. 1667 ต่อมาเมื่อ ค.ศ. 1674 พระนางอินซอน พระมเหสีของพระเจ้าฮโยจง สิ้นพระชนม์ จึงเกิดข้อถกเถียงกันเรื่องการใส่พระภูษาไว้ทุกข์ของพระนางจางรยอล พระมเหสีของพระเจ้าอินโจ ขึ้นอีกครั้ง เรียกว่า ความขัดแย้งเรื่องพิธีปีคาบิน (갑인예송, 甲寅禮訟) พระเจ้าฮยอนจงทรงเลือกที่จะทำตามข้อเสนอของขุนนางฝ่ายใต้ นำโดยฮอมก (허목, 許穆) ซึ่งเสนอให้นางจางรยอลไว้ทุกข์แบบแทกง (대공, 大功 9 เดือน พระภูษาหยาบ) ทำให้ฝ่ายใต้ขึ้นมามีอำนาจแทนฝ่ายตะวันตก ซึ่งมีอำนาจอยู่ก่อนหน้า[1]
ในปีเดียวกันนั้น พระเจ้าฮยอนจงสวรรคต พระเจ้าซุกจงจึงทรงขึ้นครองราชย์ในช่วงเวลาที่ฝ่ายใต้มีอำนาจ รัชกาลของพระเจ้าซุกจงเป็นสมัยที่ความขัดแย้งระหว่างฝ่ายต่างๆของขุนนางดุ เดือดที่สุด เรียกได้ว่าไม่มีเลยสักวันเดียวในรัชสมัยของพระองค์ที่จะปราศจากการทุ่ม เถียงระหว่างฝ่ายใต้และฝ่ายตะวันตก ขณะที่ฝ่ายใต้มีอำนาจ ฝ่ายตะวันตกก็ถูกกีดกันออกจากราชการกันเป็นส่วนใหญ่ แต่แล้วเมื่อค.ศ. 1680 ปรากฏมีขุนนางฝ่ายใต้คิดก่อการกบฎยกให้องค์ชายพงซอน (복선군, 福善君) ขึ้นเป็นกษัตริย์แทนพระเจ้าซุกจง ทำให้ฝ่ายใต้ถูกกวาดล้างหลังจากอยู่ในอำนาจได้เพียงเจ็ดปีและฝ่ายตะวันตกก็ เข้ามามีอำนาจแทน เมื่อปีเดียวกันนั้น พระมเหสีของพระเจ้าซุกจงสิ้นพระชนม์ ฝ่ายตะวันตกจึงส่งบุตรสาวจากตระกูลมินแห่งยอฮึงเข้าไปเป็นพระมเหสีองค์ใหม่ ภายหลังได้รับพระนามพระมเหสีอินฮยอน (인현왕후, 仁顯王后) ในค.ศ. 1683 ซงชียอลเกิดความขัดแย้งกับลูกศิษย์ของตนเอง คือ ยุนจึง (윤증, 尹拯) ทำให้ฝ่ายตะวันตกแตกออกเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มนักปราชญ์อาวุโส เรียกว่า โนนน (노론, 老論) ของซงชียอล และกลุ่มนักปราชญ์อายุน้อย เรียกว่า โซนน (소론, 少論) ของยุนจึง
แต่ต่อมาพระเจ้าซุกจงกลับไปโปรดปรานจางซังกุง ซึ่งมาจากตระกูลต่ำเดิมเป็นนางรับใช้ของพระนางจางรยอล และเป็นตัวแทนของขุนนางฝ่ายใต้ ภายหลังได้รับการแต่งตั้งขึ้นป็นพระสนมจาง ในค.ศ. 1688 ก็มีพระโอรสให้กับพระเจ้าซุกจง ซึ่งพระเจ้าซุกจงหมายจะแต่งตั้งให้เป็นองค์ชายรัชทายาท (ภายหลังเป็น พระเจ้าคยองจง) สร้างความขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่างฝ่ายใต้และฝ่ายตะวันตก ฝ่ายตะวันตกพยายามจะคัดค้านขณะที่ฝ่ายใต้ก็สนับสนุนให้แต่งตั้งองค์ชาย รัชทายาท พระเจ้าซุกจงทรงแต่งตั้งพระสนมจางเป็นพระสนมฮีบิน (희빈, 禧嬪) ในค.ศ. 1689 ซึ่งเป็นตำแหน่งพระสนมสูงสุด ซงชียอลได้ทูลคัดค้านขอให้พระเจ้าซุกจงทรงล้มเลิกการแต่งตั้งองค์ชาย รัชทายาทลงและให้เป็นองค์ชายธรรมดา ขุนนางฝ่ายใต้จึงยุยงให้พระเจ้าซุกจงทรงประหารชีวิตซงชียอล เนรเทศกำจัดขุนนางฝ่ายตะวันตกออกไปจากราชสำนัก รวมทั้งปลดพระมเหสีอินฮยอนขับไปนอกวัง และตั้งพระสนมฮีบินขึ้นเป็นพระมเหสีแทน เรียกว่า การเปลี่ยนขั้วทางการเมืองปีคีซา (기사환국, 己巳換局) เหตุการณ์นี้ทำให้ฝ่ายใต้กลับเข้ามามีอำนาจอย่างเต็มทีและฝ่ายตะวันตกถูก กำจัดออกไป องค์ชายรัชทายาทได้รับการแต่งตั้งต่อมาในค.ศ. 1690
แต่ต่อมาพระเจ้าซุกจงกลับทรงรู้สึกผิด ในค.ศ. 1694 ขุนนางฝ่ายตะวันตกถวายฎีกาขอให้พระเจ้าซุกจงทรงดูแลอดีตพระมเหสีอิฮยอนให้ดี ขึ้น พระเจ้าซุกจงจึงให้อดีตพระมเหสีอินฮยอนกลับเข้ามาอยู่ในวังชางด็อกแล้วก็ทรง เปลี่ยนพระทัยคืนตำแหน่งให้กับพระมเหสีอินฮยอน และให้พระมเหสีจางกลับไปเป็นพระสนมฮีบินตามเดิมและไปอยู่ที่พระราชวังชา งคยอง เรียกว่า การเปลี่ยนขั้วทางการเมืองปีคัปซุล (갑술환국, 甲戌換局) ขุนนางฝ่ายใต้ถูกกวาดล้างอีกครั้งต่างถูกเนรเทศไปตามที่ต่างๆ โดยที่ฝ่ายตะวันตกกลับขึ้นมามีอำนาจแทน แต่แล้วเมื่อค.ศ. 1701 พระมเหสีอินฮยอนก็สิ้นพระชนม์ และก็พบว่าพระสนมฮีบินทรงใช้นางร่างทรงเพื่อทำการสาปแช่งพระมเหสี พระสนมฮีบินจึงถูกสำเร็จโทษไป
นับแต่นั้นมาความขัดแย้งระหว่างฝ่ายใต้และฝ่ายตะวันตกจึงจบลง ปลายรัชสมัยของพระเจ้าซุกจงนั้นค่อนข้างสงบสุข แต่พร้อมที่จะปะทุในเวลาอันใกล้เพราะขุนนางฝ่ายโนนนและโซนนกำลังจะเผชิญหน้า กัน ด้วยเรื่องการสืบราชสมบัติ ฝ่ายโซนนสนับสนุนองค์ชายรัชทายาท ขณะที่ฝ่ายโนนนยังคงยืนกรานความคิดเห็นของฝ่ายตะวันตกในทีแรกว่า ไม่ควรตั้งพระโอรสที่เกิดแต่พระสนมฮีบินเป็นรัชทายาท จึงหันไปสนับสนุนองค์ชายยอนอิง (연잉군, 延礽君 ซึ่งเป็นพระโอรสกับพระสนมซุกบิน ตระกูลแช ภายหลังเป็น พระเจ้ายองโจ) ซึ่งพระสนมซุกบินเป็นที่โปรดปรานทั้งพระเจ้าซุกจงและพระมเหสีอินฮยอน ทำให้พระสนมซุกบินเป็นที่รักใคร่ของคนทั้งวัง
เมื่อค.ศ. 1718 พระเจ้าซุกจงทรงตั้งองค์ชายรัชทายาทเป็นผู้สำเร็จราชการแทน พระเจ้าซุกจงสวรรคตเมื่อค.ศ. 1720
- พระราชบิดา: พระเจ้าฮยอนจง (현종, 顯宗)
- พระราชมารดา: พระมเหสีมยองซอง ตระกูลคิม (명성왕후, 明聖王后) หรือ พระพันปีฮยอนยอง (현렬왕대비, 顯烈王大妃)
- พระมเหสีและพระสนม:
- พระมเหสีอินคยอง ตระกูล คิม (인경왕후 김씨, 仁敬王后 金氏) ถึง ค.ศ. 1680
- พระมเหสีอินฮยอน ตระกูล มิน แห่ง ยอฮึง (인현왕후 민씨, 仁顯王后 閔氏) ถูกปลดค.ศ. 1689 กลับสู่ตำแหน่งค.ศ. 1691 สิ้นพระชนม์ ค.ศ. 1701
- พระมเหสีอินวอน ตระกูลคิม แห่ง คยองจู (인원왕후 김씨, 仁元王后 金氏) สิ้นพระชนม์ ค.ศ. 1757 รัชกาลพระเจ้ายองโจ
- พระสนมฮีบิน ตระกูล จาง แห่ง อินดง (희빈 장씨, 禧嬪 張氏) เป็นพระมเหสี ค.ศ. 1689 - ค.ศ. 1691 ถูกประทานยาพิษในปี 1703
- พระสนมซุกบิน ตระกูล แช แห่ง แฮจู(숙빈 최씨, 淑嬪 崔氏)เรื่องราวของพระองค์ถูกนำมาเป็นข้อมูลอ้างอิงเพื่อสร้างภาพยนตร์เรื่อง ทงอี จอมนางคู่บัลลังก์
- พระสนมมยองบิน ตระกูล ปาร์ค แห่ง มิลยาง (명빈 박씨, 榠嬪 朴氏)
- พระสนมยองบิน ตระกูล คิม (영빈 김씨, 寧嬪 金氏)
- พระสนมควีอิน ตระกูล คิม (귀인 김씨, 貴人 金氏)
- พระสนมโซอึย ตระกูล ยู (소의 유씨, 昭儀 劉氏)
- พระสนมโซอึย ตระกูล แช (소의 최씨)
- พระราชโอรส-ธิดา:
- องค์ชายรัชทายาท(พระเจ้าคยองจง) กับ พระสนมฮีบิน ตระกูลจาง
- องค์ชายยอนอิง พระเจ้ายองโจ กับ พระสนมซุกบิน ตระกูลแช
- องค์ชายยอนยอง (연령군, 延齡君) กับ พระสนมมยองบิน ตระกูลปาร์ค
- องค์หญิงซองซู กับพระสนมฮีบิน ตระกูลจาง
- องค์หญิงยองซู กับพระสนมซุกบิน ตระกูลแช
King Sook-Jong พระเจ้าซุกจง รับบทโดย จี จินฮี Ji Jin-Hee
Choi Dong-Yi ชอยดงยี(Choi Sook-Bin)รับบทโดย ฮัน เฮียวจู Han Hyo-Joo
3 กาลเวลา ทาส, นางในฝ่ายตรวจการ . สนมซุกบิน
ที่มา: วิกิีพีเดีย
วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554
วันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2554
มักกอลรี, มักกอลี, มัคคอลี Makgeolli (막걸리) สัมผัสแรกที่นุ่มลิ้น
มักกอลลี, มักกอลี, หรือ มัคคอลี เขียนแบบไทยได้หลายแบบ แต่มันก็คือ ไวน์ข้าว ได้มาจากการหมักข้าว นั่นเอง สำหรับเกาหลีแล้วเครื่องดื่มประเภทเหล้า ผมสังเกตุเห็นในซีรียส์ หรือภาพยนต์ก็ดี จะเห็นมีขวดเขียวเล็กๆ อย่างนั้นเรียกกันว่า "โซจู" ซึ่งผมขอสารภาพว่าเคยดื่มแล้ว รสชาติ สำหรับผมผมว่าเฉยๆ ไม่่ค่อยรู้สึกว่ามันอร่อยตรงไหนกินยาก
แต่สำหรับ "มัค คอ ลี" ผมมีโอกาสได้ดื่มที่ร้านอาหารเกาหลีแถวสุขุมวิท ยี่ห้อ "อารีรัง มัค คอ ลี"แล้ว รู้สึกว่ามันอร่อย ไม่หวานเลี่ยน กินดีเลยแหละ เห็นว่าเป็นขวดขาวน่ารักแรกๆ ตอนกินก็คิดถึงรสชาด ของมันไปด้วย แต่พอหมดขวดแรกแล้วลื่นไหลเหมือนกินปลาไหลยัดไส้ อร่อย เพื่อนผู้หญิงผมที่ไปด้วยก็กินแล้วยังบอกว่ากินง่ายกว่าสปายอีก (ว่าไปนู้) ว่างๆ เพื่อนๆ คนไหนอยากลอง ขอแนะนำยี่ห้อ "อารีรัง มัค คอ ลี" อร่อยมากครับ ผมได้สอบถามไปยังร้านว่ามีขายมานานแล้วเหรอ เค้าตอบว่ายี่ห้อนี้เพิ่งจะทำตลาดได้2-3 เดือนเอง และที่สำคัญคนเกาหลีทำเองทุกอย่าง เพื่อให้เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่มีรสนิยมการดื่มเครื่องดื่ม เห็นว่ามีขายตามร้านอาหารที่พัทยา เกาะล้านก็มี ชลบุรี ศรีราชา กทม ก็มีแถวสุขุมวิท อร่อยๆ อย่างนั้นต้องลองชิมกันดูนะครับ ผมเคยถามคนเกาหลีที่ดื่ม "อารีรัง มัค คอ ลี"เค้าบอกว่าชอบยี่ห้อนี้เพราะกินอร่อย บอกว่ากินแล้วคลายความคิดถึงบ้านไป 555 โอ้พระเจ้า...
แต่สำหรับ "มัค คอ ลี" ผมมีโอกาสได้ดื่มที่ร้านอาหารเกาหลีแถวสุขุมวิท ยี่ห้อ "อารีรัง มัค คอ ลี"แล้ว รู้สึกว่ามันอร่อย ไม่หวานเลี่ยน กินดีเลยแหละ เห็นว่าเป็นขวดขาวน่ารักแรกๆ ตอนกินก็คิดถึงรสชาด ของมันไปด้วย แต่พอหมดขวดแรกแล้วลื่นไหลเหมือนกินปลาไหลยัดไส้ อร่อย เพื่อนผู้หญิงผมที่ไปด้วยก็กินแล้วยังบอกว่ากินง่ายกว่าสปายอีก (ว่าไปนู้) ว่างๆ เพื่อนๆ คนไหนอยากลอง ขอแนะนำยี่ห้อ "อารีรัง มัค คอ ลี" อร่อยมากครับ ผมได้สอบถามไปยังร้านว่ามีขายมานานแล้วเหรอ เค้าตอบว่ายี่ห้อนี้เพิ่งจะทำตลาดได้2-3 เดือนเอง และที่สำคัญคนเกาหลีทำเองทุกอย่าง เพื่อให้เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่มีรสนิยมการดื่มเครื่องดื่ม เห็นว่ามีขายตามร้านอาหารที่พัทยา เกาะล้านก็มี ชลบุรี ศรีราชา กทม ก็มีแถวสุขุมวิท อร่อยๆ อย่างนั้นต้องลองชิมกันดูนะครับ ผมเคยถามคนเกาหลีที่ดื่ม "อารีรัง มัค คอ ลี"เค้าบอกว่าชอบยี่ห้อนี้เพราะกินอร่อย บอกว่ากินแล้วคลายความคิดถึงบ้านไป 555 โอ้พระเจ้า...
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)