พระเจ้าซุกจงประสูติเมื่อ ค.ศ. 1661 เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าฮยอนจง กับพระมเหสีมยองซอง ได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์ชายรัชทายาทเมื่อ ค.ศ. 1667 ต่อมาเมื่อ ค.ศ. 1674 พระนางอินซอน พระมเหสีของพระเจ้าฮโยจง สิ้นพระชนม์ จึงเกิดข้อถกเถียงกันเรื่องการใส่พระภูษาไว้ทุกข์ของพระนางจางรยอล พระมเหสีของพระเจ้าอินโจ ขึ้นอีกครั้ง เรียกว่า ความขัดแย้งเรื่องพิธีปีคาบิน (갑인예송, 甲寅禮訟) พระเจ้าฮยอนจงทรงเลือกที่จะทำตามข้อเสนอของขุนนางฝ่ายใต้ นำโดยฮอมก (허목, 許穆) ซึ่งเสนอให้นางจางรยอลไว้ทุกข์แบบแทกง (대공, 大功 9 เดือน พระภูษาหยาบ) ทำให้ฝ่ายใต้ขึ้นมามีอำนาจแทนฝ่ายตะวันตก ซึ่งมีอำนาจอยู่ก่อนหน้า[1]
ในปีเดียวกันนั้น พระเจ้าฮยอนจงสวรรคต พระเจ้าซุกจงจึงทรงขึ้นครองราชย์ในช่วงเวลาที่ฝ่ายใต้มีอำนาจ รัชกาลของพระเจ้าซุกจงเป็นสมัยที่ความขัดแย้งระหว่างฝ่ายต่างๆของขุนนางดุ เดือดที่สุด เรียกได้ว่าไม่มีเลยสักวันเดียวในรัชสมัยของพระองค์ที่จะปราศจากการทุ่ม เถียงระหว่างฝ่ายใต้และฝ่ายตะวันตก ขณะที่ฝ่ายใต้มีอำนาจ ฝ่ายตะวันตกก็ถูกกีดกันออกจากราชการกันเป็นส่วนใหญ่ แต่แล้วเมื่อค.ศ. 1680 ปรากฏมีขุนนางฝ่ายใต้คิดก่อการกบฎยกให้องค์ชายพงซอน (복선군, 福善君) ขึ้นเป็นกษัตริย์แทนพระเจ้าซุกจง ทำให้ฝ่ายใต้ถูกกวาดล้างหลังจากอยู่ในอำนาจได้เพียงเจ็ดปีและฝ่ายตะวันตกก็ เข้ามามีอำนาจแทน เมื่อปีเดียวกันนั้น พระมเหสีของพระเจ้าซุกจงสิ้นพระชนม์ ฝ่ายตะวันตกจึงส่งบุตรสาวจากตระกูลมินแห่งยอฮึงเข้าไปเป็นพระมเหสีองค์ใหม่ ภายหลังได้รับพระนามพระมเหสีอินฮยอน (인현왕후, 仁顯王后) ในค.ศ. 1683 ซงชียอลเกิดความขัดแย้งกับลูกศิษย์ของตนเอง คือ ยุนจึง (윤증, 尹拯) ทำให้ฝ่ายตะวันตกแตกออกเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มนักปราชญ์อาวุโส เรียกว่า โนนน (노론, 老論) ของซงชียอล และกลุ่มนักปราชญ์อายุน้อย เรียกว่า โซนน (소론, 少論) ของยุนจึง
แต่ต่อมาพระเจ้าซุกจงกลับไปโปรดปรานจางซังกุง ซึ่งมาจากตระกูลต่ำเดิมเป็นนางรับใช้ของพระนางจางรยอล และเป็นตัวแทนของขุนนางฝ่ายใต้ ภายหลังได้รับการแต่งตั้งขึ้นป็นพระสนมจาง ในค.ศ. 1688 ก็มีพระโอรสให้กับพระเจ้าซุกจง ซึ่งพระเจ้าซุกจงหมายจะแต่งตั้งให้เป็นองค์ชายรัชทายาท (ภายหลังเป็น พระเจ้าคยองจง) สร้างความขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่างฝ่ายใต้และฝ่ายตะวันตก ฝ่ายตะวันตกพยายามจะคัดค้านขณะที่ฝ่ายใต้ก็สนับสนุนให้แต่งตั้งองค์ชาย รัชทายาท พระเจ้าซุกจงทรงแต่งตั้งพระสนมจางเป็นพระสนมฮีบิน (희빈, 禧嬪) ในค.ศ. 1689 ซึ่งเป็นตำแหน่งพระสนมสูงสุด ซงชียอลได้ทูลคัดค้านขอให้พระเจ้าซุกจงทรงล้มเลิกการแต่งตั้งองค์ชาย รัชทายาทลงและให้เป็นองค์ชายธรรมดา ขุนนางฝ่ายใต้จึงยุยงให้พระเจ้าซุกจงทรงประหารชีวิตซงชียอล เนรเทศกำจัดขุนนางฝ่ายตะวันตกออกไปจากราชสำนัก รวมทั้งปลดพระมเหสีอินฮยอนขับไปนอกวัง และตั้งพระสนมฮีบินขึ้นเป็นพระมเหสีแทน เรียกว่า การเปลี่ยนขั้วทางการเมืองปีคีซา (기사환국, 己巳換局) เหตุการณ์นี้ทำให้ฝ่ายใต้กลับเข้ามามีอำนาจอย่างเต็มทีและฝ่ายตะวันตกถูก กำจัดออกไป องค์ชายรัชทายาทได้รับการแต่งตั้งต่อมาในค.ศ. 1690
แต่ต่อมาพระเจ้าซุกจงกลับทรงรู้สึกผิด ในค.ศ. 1694 ขุนนางฝ่ายตะวันตกถวายฎีกาขอให้พระเจ้าซุกจงทรงดูแลอดีตพระมเหสีอิฮยอนให้ดี ขึ้น พระเจ้าซุกจงจึงให้อดีตพระมเหสีอินฮยอนกลับเข้ามาอยู่ในวังชางด็อกแล้วก็ทรง เปลี่ยนพระทัยคืนตำแหน่งให้กับพระมเหสีอินฮยอน และให้พระมเหสีจางกลับไปเป็นพระสนมฮีบินตามเดิมและไปอยู่ที่พระราชวังชา งคยอง เรียกว่า การเปลี่ยนขั้วทางการเมืองปีคัปซุล (갑술환국, 甲戌換局) ขุนนางฝ่ายใต้ถูกกวาดล้างอีกครั้งต่างถูกเนรเทศไปตามที่ต่างๆ โดยที่ฝ่ายตะวันตกกลับขึ้นมามีอำนาจแทน แต่แล้วเมื่อค.ศ. 1701 พระมเหสีอินฮยอนก็สิ้นพระชนม์ และก็พบว่าพระสนมฮีบินทรงใช้นางร่างทรงเพื่อทำการสาปแช่งพระมเหสี พระสนมฮีบินจึงถูกสำเร็จโทษไป
นับแต่นั้นมาความขัดแย้งระหว่างฝ่ายใต้และฝ่ายตะวันตกจึงจบลง ปลายรัชสมัยของพระเจ้าซุกจงนั้นค่อนข้างสงบสุข แต่พร้อมที่จะปะทุในเวลาอันใกล้เพราะขุนนางฝ่ายโนนนและโซนนกำลังจะเผชิญหน้า กัน ด้วยเรื่องการสืบราชสมบัติ ฝ่ายโซนนสนับสนุนองค์ชายรัชทายาท ขณะที่ฝ่ายโนนนยังคงยืนกรานความคิดเห็นของฝ่ายตะวันตกในทีแรกว่า ไม่ควรตั้งพระโอรสที่เกิดแต่พระสนมฮีบินเป็นรัชทายาท จึงหันไปสนับสนุนองค์ชายยอนอิง (연잉군, 延礽君 ซึ่งเป็นพระโอรสกับพระสนมซุกบิน ตระกูลแช ภายหลังเป็น พระเจ้ายองโจ) ซึ่งพระสนมซุกบินเป็นที่โปรดปรานทั้งพระเจ้าซุกจงและพระมเหสีอินฮยอน ทำให้พระสนมซุกบินเป็นที่รักใคร่ของคนทั้งวัง
เมื่อค.ศ. 1718 พระเจ้าซุกจงทรงตั้งองค์ชายรัชทายาทเป็นผู้สำเร็จราชการแทน พระเจ้าซุกจงสวรรคตเมื่อค.ศ. 1720
- พระราชบิดา: พระเจ้าฮยอนจง (현종, 顯宗)
- พระราชมารดา: พระมเหสีมยองซอง ตระกูลคิม (명성왕후, 明聖王后) หรือ พระพันปีฮยอนยอง (현렬왕대비, 顯烈王大妃)
- พระมเหสีและพระสนม:
- พระมเหสีอินคยอง ตระกูล คิม (인경왕후 김씨, 仁敬王后 金氏) ถึง ค.ศ. 1680
- พระมเหสีอินฮยอน ตระกูล มิน แห่ง ยอฮึง (인현왕후 민씨, 仁顯王后 閔氏) ถูกปลดค.ศ. 1689 กลับสู่ตำแหน่งค.ศ. 1691 สิ้นพระชนม์ ค.ศ. 1701
- พระมเหสีอินวอน ตระกูลคิม แห่ง คยองจู (인원왕후 김씨, 仁元王后 金氏) สิ้นพระชนม์ ค.ศ. 1757 รัชกาลพระเจ้ายองโจ
- พระสนมฮีบิน ตระกูล จาง แห่ง อินดง (희빈 장씨, 禧嬪 張氏) เป็นพระมเหสี ค.ศ. 1689 - ค.ศ. 1691 ถูกประทานยาพิษในปี 1703
- พระสนมซุกบิน ตระกูล แช แห่ง แฮจู(숙빈 최씨, 淑嬪 崔氏)เรื่องราวของพระองค์ถูกนำมาเป็นข้อมูลอ้างอิงเพื่อสร้างภาพยนตร์เรื่อง ทงอี จอมนางคู่บัลลังก์
- พระสนมมยองบิน ตระกูล ปาร์ค แห่ง มิลยาง (명빈 박씨, 榠嬪 朴氏)
- พระสนมยองบิน ตระกูล คิม (영빈 김씨, 寧嬪 金氏)
- พระสนมควีอิน ตระกูล คิม (귀인 김씨, 貴人 金氏)
- พระสนมโซอึย ตระกูล ยู (소의 유씨, 昭儀 劉氏)
- พระสนมโซอึย ตระกูล แช (소의 최씨)
- พระราชโอรส-ธิดา:
- องค์ชายรัชทายาท(พระเจ้าคยองจง) กับ พระสนมฮีบิน ตระกูลจาง
- องค์ชายยอนอิง พระเจ้ายองโจ กับ พระสนมซุกบิน ตระกูลแช
- องค์ชายยอนยอง (연령군, 延齡君) กับ พระสนมมยองบิน ตระกูลปาร์ค
- องค์หญิงซองซู กับพระสนมฮีบิน ตระกูลจาง
- องค์หญิงยองซู กับพระสนมซุกบิน ตระกูลแช
King Sook-Jong พระเจ้าซุกจง รับบทโดย จี จินฮี Ji Jin-Hee
Choi Dong-Yi ชอยดงยี(Choi Sook-Bin)รับบทโดย ฮัน เฮียวจู Han Hyo-Joo
3 กาลเวลา ทาส, นางในฝ่ายตรวจการ . สนมซุกบิน
ที่มา: วิกิีพีเดีย